Teva นำบาร์โค้ด 2D ใหม่มาใช้ในการต่อสู้กับตลาดยาปลอม
มีแนวคิดที่ว่า การค้ายาปลอมคือตลาดของสินค้าปลอมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าเป็นหลายพันล้านดอลลาร์ซึ่งจะไหลเข้าไปอยู่ในมือของแก๊งอาชญากรรมที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบในแต่ละปี 01
ตลาดยาปลอมทั่วโลกทำให้หลายพันคนเสียชีวิตในแต่ละปี และปล่อยให้คนจำนวนมากกว่านั้นเป็นอัมพาตหรือทุกข์ทรมานจากปัญหาสุขภาพที่รุนแรงอันเป็นผลมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมที่อาจปนเปื้อนหรือเก่าเก็บ02
โดยการร่วมมือกันในการต่อสู้กับยาปลอม Teva ได้เปิดตัวบาร์โค้ด 2D ซึ่งเป็นการปฏิวัติใหม่ ซึ่งอาจหมายถึงการจบสิ้นยาปลอมที่เป็นอันตรายเหล่านี้ Teva ได้สร้างเทคนิคใหม่การทำให้เป็นอนุกรมโดยการใช้จ่ายเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์เพื่อให้แน่ใจผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะของแท้และให้ความอุ่นใจมากขึ้นแก่ทั้งผู้ค้าปลีกและผู้บริโภค และทำให้ผลกำไรที่ผิดกฎหมายหลุดออกจากมือของอาชญากร
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินรายได้จากยาปลอมประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นจำนวนประมาณร้อยละ 10 -15 ของการค้ายาทั่วโลก03 ยาปลอมสามารถขายในตลาดมืด ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และในบางกรณี ยาปลอมยังได้มอบให้แก่ผู้ป่วยในการให้ยาตามใบสั่งแพทย์
เนื่องจากการใช้ยาปลอมเหล่านี้เพิ่มขึ้นทั่วโลก ดังนั้น Teva ได้ทำให้ยาของบริษัทยากมากขึ้นที่จะปลอมได้โดยการใส่บาร์โค้ด 2D นี้ มีหมายเลขการติดตามทั่วโลกที่สอดคล้องกัน บน 326 สายการบรรจุภัณฑ์ Teva ยังคงวางแผนวิธีการที่ดีที่สุดต่อไปที่จะนำบาร์โค้ดใหม่มาใช้ โดยผู้จัดการโปรแกรม Galit Meyran ซึ่งเป็นผู้นำโครงการการทำให้เป็นอนุกรมตั้งแต่ปี 2015
Meyran เชื่อว่าบาร์โค้ดสามารถให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยในผลิตภัณฑ์ที่พวกเขากำลังรับประทาน “เรากำลังจัดการกับบาร์โค้ดขนาดเล็กที่มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของผู้ป่วย และทำให้สำเร็จตามคำสัญญาของแบรนด์ของเรา ผู้บริโภคสามารถยืนยันได้ว่าพวกเขามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ และไม่มีใครพยายามที่จะขายยาปลอมให้พวกเขา”
อุตสาหกรรมยาได้ให้ความสำคัญในการตรวจสอบย้อนกลับในการต่อสู้กับการปลอมแปลง แต่การดำเนินการนี้ไม่ได้หยุดอาชญากรจากการผลิตและขายยาปลอมสำเร็จได้ จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ผู้ปลอมแปลงได้จำลองยาทุกประเภท ตั้งแต่ยารักษาเอดส์ไปจนถึงยาเม็ดต้านมาลาเรีย โดยประมาณ 1 ใน 10 ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและกลางเป็นยาที่ต่ำกว่ามาตรฐานหรือเป็นยาปลอม04
Meyran เป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับพนักงานหลายร้อยคนที่โรงงานของ Teva 38 แห่งทั่วโลก เพื่อนำโครงการให้บรรลุผล โดยเธอได้กล่าวเพิ่มอีกว่า: “ที่ Teva เราไม่หยุดการผลิตสินค้าและนำเข้าสู่ตลาด เราใช้ทุกมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยและเภสัชกรสามารถตรวจสอบได้ว่ายาที่พวกเขาจะมีอยู่เป็นยา Teva ของแท้”
ในปีที่ผ่านมา Teva ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ศุลกากรทั่วโลกที่จะพยายามที่จะหยุดยั้งการจัดส่งยาปลอม ในปี 2013 Teva ได้ช่วยเปิดโปงการดำเนินการปลอมแปลงที่มีความซับซ้อน หลังจากที่ผู้ป่วยในเยอรมนีพบความผิดลาดในการสะกดคำในบรรจุภัณฑ์ของยาและได้ติดต่อบริษัท ในการตอบสนอง Teva ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่น่าสงสัยนี้บางส่วนเพื่อทดสอบในห้องปฏิบัติการของบริษัท และพบว่าแม้ว่ายาจะมีส่วนผสมยาที่เป็นของแท้ แต่บริษัทไม่ได้ผลิต ตามที่ลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้าง
เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามจากยาปลอมที่เพิ่มขึ้น และชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางกฎระเบียบ Teva จะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สำหรับยาชนิดเม็ดและชนิดแคปซูลหลายพันล้านยาที่ผลิตในแต่ละปีเพื่อรวมการทำบาร์โค้ดใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ภายในTeva นี่เป็นครั้งแรกที่โครงการได้ดำเนินการทั่วแผนกต่าง ๆ มากมาย โดยทำงานร่วมกับทั้งทีมต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งทีมระดับโลกและระดับประเทศ
Meyran เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ความเสี่ยงด้านไอที ซึ่งได้ทำงานที่ Teva เป็นเวลาหกปี เธอได้กล่าวเพิ่มว่าโครงการนี้เป็นผลมาจากหลายปีของความร่วมมือระหว่างหลายสิบแผนก “โครงการนี้เกี่ยวข้องกับทีมงานระดับโลกอย่างแท้จริง รวมถึงงานศิลป์ การจัดซื้อ ห่วงโซ่อุปทาน บรรจุภัณฑ์ และผู้จัดการทั่วโลกจำนวนมาก”
“นี่เป็นโปรแกรมที่สำคัญระดับโลกสำหรับบริษัทที่จะส่งผลกระทบต่อทุกด้านของธุรกิจของเรา เป็นความสำเร็จที่ดีเยี่ยมที่เห็นแผนกที่แตกต่างกันมากมายมาร่วมกันเพื่อแบ่งปันความรู้ของพวกเขาเธอได้กล่าวเพิ่มว่า “เช่นเดียวกับวงดนตรีออเคสตร้า นักดนตรีที่ต่างกันจะต้องทำงานในการประสานและความแม่นยำที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ชัดเจนและที่ดีเยี่ยม” “ยังคงเป็นความท้าทายต่อไป แต่ดิฉันภูมิใจในทีมที่ได้มาทำงานด้วยกัน”
ตามประวัติศาสตร์แล้ว การใช้ยาปลอมไม่ได้แพร่หลายในประเทศอุตสาหกรรมอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปตะวันตก แม้ว่าในขณะนี้จะมีผู้บริโภคจำนวนมากใช้อินเทอร์เน็ตในการซื้อยาราคาถูก ตัวอย่างของยาปลอมได้เห็นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยทั่วโลก องค์การอนามัยโลกประมาณการว่าในแอฟริกาและในบางส่วนของเอเชียและละตินอเมริกา สัดส่วนของยาปลอมอาจสูงถึงร้อยละ 20 - 30 ของตลาด 05 บ่อยครั้งที่การขายยาปลอมส่งผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกที่สาม และการขายของยาปลอมเหล่านี้ยังพบในตลาดของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่มีการควบคุมสูง
เพื่อต่อสู้กับความเสียหายอันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการใช้ยาปลอม องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และสหภาพยุโรป (EU) ได้แนะนำแผนเพื่อให้แน่ใจว่าทุกหน่วยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปิดผนึกได้จะเป็นแบบอนุกรม นอกจากนี้สหพันธรัฐรัสเซียยังวางแผนที่จะใช้กฎระเบียบที่คล้ายกันก่อนมกราคม 2020 อีกด้วย
ดูแหล่งที่มา: